คอนกรีตที่ใช้อยู่ยังแข็งแรงพอหรือไม่?

การทดสอบคอนกรีตด้วย Rebound Hammer คืออะไร? ตรวจเช็กกำลังคอนกรีตได้โดยไม่ทำลายโครงสร้าง

ทดสอบกำลังคอนกรีต Rebound Hammer

คอนกรีตถือเป็นวัสดุหลักของงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคารสะพาน หรือถนน แต่เมื่อเวลาผ่านไป คำถามสำคัญที่วิศวกรและเจ้าของอาคารต้องหาคำตอบก็คือ “คอนกรีตที่ใช้อยู่ยังแข็งแรงพอหรือไม่?”

ถ้าใช้วิธีทดสอบแบบเดิมๆ อย่างการเจาะแกน (Core Test) แม้จะได้ผลที่แม่นยำ แต่ก็ทำให้โครงสร้างเสียหายและเปลืองเวลา จึงเกิดทางเลือกที่น่าสนใจขึ้นมาคือ การทดสอบกำลังคอนกรีตด้วย Rebound Hammer ซึ่งเป็นการทดสอบแบบ ไม่ทำลายโครงสร้าง (Non-Destructive Test : NDT) ตามมาตรฐาน ASTM C805 และ มยผ.1502-51

Rebound Hammer คืออะไร? (Schmidt Hammer Test)

 

ภาพ : แสดงตัวอย่างส่วนประกอบของ Rebound Hammer

ที่มา : กรมโยธาธิการและผังเมือง, 2561, น.9,
การทดสอบคอนกรีตแบบไม่ทำลายด้วยวิธีค้อนกระแทก (Rebound hammer)

Rebound Hammer หรือที่เรียกว่า Schmidt Hammer เป็นเครื่องมือสำหรับ ทดสอบคอนกรีตในโครงสร้างโดยไม่ทำลาย ใช้เพื่อประเมินค่ากำลังอัดประลัย (Fc') ของคอนกรีต

หลักการทำงานคือวัดค่าดัชนีสะท้อนกลับ (Rebound Number) ที่เกิดจากแรงกระแทกของสปริงภายในตัวเครื่องเมื่อกดปลายแท่งทดสอบ (Plunger) เข้ากับผิวคอนกรีต

  • ผิวคอนกรีตที่แข็งมาก → ค่าดัชนีสะท้อนกลับสูง
  • ผิวคอนกรีตที่นิ่มหรือมีรอยร้าว → ค่าดัชนีต่ำ

ผลที่ได้จะอยู่ในรูปตัวเลข ซึ่งสามารถนำไปเปรียบเทียบกับตารางมาตรฐานเพื่อหาค่ากำลังอัดโดยประมาณของคอนกรีตได้

วิธีการทดสอบคอนกรีตด้วย Rebound Hammer

  1. เตรียมพื้นผิว – ต้องขัดผิวให้เรียบ สะอาด และไม่มีเศษปูนเกาะ
    **พื้นผิวที่โค้งนูนจะให้ค่า Rebound Number ต่ำกว่า และพื้นผิวที่เว้าจะให้ค่า Rebound Number สูงกว่า**
  2. กำหนดตำแหน่งทดสอบ – เลือกจุดที่ต้องการตรวจ ไม่ควรทดสอบบนรอยแตก
  3. กด Rebound Hammer – จับเครื่องแนบกับผิวคอนกรีต แล้วกดให้ลูกเหล็กกระแทก

    ภาพ : การทดสอบ Rebound Hammer โดยวิศวกรบริษัท เอ็น.เอส.พลัส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

  4. อ่านค่า Rebound Number – บันทึกตัวเลขที่แสดงบนหน้าปัด

    ภาพ : การอ่านค่า Rebound Number โดยวิศวกรบริษัท เอ็น.เอส.พลัส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด


  5. ตีความผล – นำค่าไปเปรียบเทียบกับกราฟหรือมาตรฐาน เพื่อหากำลังอัดโดยประมาณ

    ที่มา : ASTM C805

ข้อดีและข้อจำกัดของการทดสอบคอนกรีตด้วย Rebound Hammer

ข้อดี

  • ไม่ทำลายโครงสร้าง
  • รวดเร็วและสะดวก ใช้ในสนามได้ทันที
  • ค่าใช้จ่ายไม่สูง

ข้อจำกัด

  • ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวคอนกรีต ความชื้น และอายุการก่อสร้าง
  • ใช้ได้ดีในการเปรียบเทียบ ไม่ควรใช้เพียงวิธีเดียวตัดสินกำลังคอนกรีต
  • ความแม่นยำอาจน้อยกว่าวิธี Core Test

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทดสอบคอนกรีต                            

การทดสอบคอนกรีตแบบไม่ทำลาย (NDT) คืออะไร?

คือการตรวจสอบคุณภาพคอนกรีตโดยไม่ต้องเจาะหรือทำลายชิ้นงาน เช่น Rebound Hammer, Ultrasonic Pulse Velocity, หรือ Impact Echo Test เพื่อประเมินสภาพโครงสร้างโดยไม่กระทบการใช้งานจริง

Rebound Hammer ใช้วัดอะไรได้บ้าง?

ใช้วัด “ค่ากำลังอัดโดยประมาณ” ของคอนกรีต รวมถึงตรวจสอบความสม่ำเสมอของคอนกรีตในแต่ละบริเวณได้

การทดสอบคอนกรีตควรทำเมื่อไหร่?

ควรทำเมื่อต้องการตรวจสอบความแข็งแรงของอาคารเก่าหรือโครงสร้างที่มีอายุการใช้งานนาน รวมถึงหลังเกิดเหตุ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือแรงกระแทก เพื่อประเมินความปลอดภัย

ถ้าผล Rebound Hammer ต่ำ ควรทำอย่างไร?

ควรตรวจสอบซ้ำในหลายจุด และถ้ายังได้ค่าต่ำ ควรทำ Core Test เพื่อยืนยันค่ากำลังอัดจริงก่อนสรุปผล

การทดสอบกำลังคอนกรีตด้วย Rebound Hammer เป็นวิธีที่ ง่าย รวดเร็ว ไม่ทำลายโครงสร้าง และให้ข้อมูลเบื้องต้นได้ทันที เหมาะสำหรับงานตรวจสอบภาคสนามหรือการสำรวจสภาพอาคารเบื้องต้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ควรใช้ Rebound Hammer ร่วมกับการทดสอบอื่นๆ เช่น Core Test หรือ Ultrasonic Test เพื่อประเมินสภาพคอนกรีตได้อย่างรอบด้านและปลอดภัยตามมาตรฐานวิศวกรรม

หากคุณกำลังมองหาทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน การทดสอบคอนกรีต, การตรวจสอบโครงสร้าง หรือการประเมินความแข็งแรงของอาคาร ติดต่อทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำปรึกษาหรือรับบริการทดสอบคอนกรีตในพื้นที่ของคุณได้เลยวันนี้ เพราะความปลอดภัยของโครงสร้าง คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.nsplusengineering.com
โทร : 086-307-5103, 085-114-3733
Facebook : nsplusengineering
Line : @nsplus
Email : info.nsplus@gmail.com

Visitors: 348,726