คู่มือจัดการบ้านหลังน้ำท่วม

✅ 1. การตรวจสอบโครงสร้าง (Structural Inspection)

น้ำท่วมอาจทำให้โครงสร้างรับน้ำหนักเสียหาย ควรตรวจดังนี้

• ตอม่อ–ฐานราก: ตรวจการทรุดตัว, ดินถูกชะล้าง (Erosion), การแตกร้าวฐานราก
• คาน–เสา: ตรวจรอยร้าวเฉียง, รอยดึงฉีก (Tension Crack), การบวมของคอนกรีต
• พื้น: ตรวจพื้นแอ่นตัว, รอยร้าวตามแนวยาว, พื้นยุบตัวจากการพังทลายของดิน
• เหล็กเสริม: ตรวจสนิม เนื่องจากเหล็กเปียกน้ำเป็นเวลานาน
• กำแพงกันดิน: ตรวจการดันดินเพิ่มหลังน้ำท่วม

✅ 2. การตรวจสอบวัสดุผนังและงานสถาปัตย์

 ผนังก่ออิฐ: ผนังอิฐจะอมน้ำ → เกิดการพองตัว, แตกร้าว, เชื้อรา

 ผนังเบา: แผ่นยิปซัมบวม, ฉีกขาด, โครงเคร่าผุ

 ประตู–หน้าต่าง: บวม ปิดไม่สนิท ต้องตรวจวงกบ

 กระเบื้องพื้น: กาวซีเมนต์หลุด ทำให้กระเบื้องลอยตัว

✅ 3. การตรวจสอบระบบไฟฟ้า (Electrical Inspection)

น้ำท่วมเป็นอันตรายต่อระบบไฟฟ้า ต้องตรวจอย่างละเอียด

ตู้ไฟ, เบรกเกอร์, สายไฟ, เต้ารับที่แช่น้ำต้อง ถอด–อบ–ทดสอบฉนวน ก่อนใช้งาน

มอเตอร์ปั๊มน้ำ, แอร์ต่าง ๆ อาจเกิดการลัดวงจร

ควรให้ช่างไฟฟ้ามีใบอนุญาตตรวจสอบก่อนเปิดระบบ

✅ 4. การตรวจสอบระบบสุขาภิบาลและปั๊มน้ำ

บ่อบำบัด, ถังดักไขมันอาจเต็มจากน้ำท่วม → เกิดการอุดตัน

ปั๊มน้ำและมอเตอร์ต้องตรวจ Bearing, Insulation Resistance

ท่อระบายน้ำอาจอุดตันจากดิน โคลน เศษวัสดุ

✅ 5. การตรวจสอบพื้นดินและสภาพภูมิประเทศ

ตรวจการ พังทลายของดิน รอบอาคาร

ตรวจระดับดินที่ถูกชะล้าง อาจส่งผลต่อฐานราก

สังเกตบริเวณที่เกิด “โพรงดิน” (Void) จากการไหลของน้ำ

✅ 6. การตรวจสอบความปลอดภัยด้านสุขอนามัย

ตรวจเชื้อรา ราเขียว ราดำ บนผนัง เฟอร์นิเจอร์

ตรวจคุณภาพน้ำในบ่อ, ถังเก็บน้ำ

ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าใช้งาน

✅ 7. การตรวจสอบกลิ่น–เชื้อโรค–สัตว์รบกวน

กลิ่นเหม็นจากน้ำค้างคาว/น้ำไขมันย้อนกลับท่อ

งู หนู มด ปลวก อาจเข้ามาในบ้านช่วงน้ำท่วมควรทำ Pest Control หลังน้ำลด