การลด–เพิ่มคุณภาพวัสดุและโครงสร้างในงานก่อสร้าง
ลด–เพิ่มสเปค? เช็กให้ชัวร์ ตรวจโครงสร้างโดยวิศวกรเฉพาะทาง
ในกระบวนการก่อสร้างอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ หรือโครงการขนาดใหญ่ มักมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุหรือรายละเอียดทางวิศวกรรมระหว่างดำเนินงานจริง ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น งบประมาณที่จำกัด ความพร้อมของวัสดุในท้องตลาด ความเหมาะสมของหน้างาน หรือความต้องการของเจ้าของโครงการเอง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เรียกกันโดยทั่วไปว่า "การลดหรือเพิ่มคุณภาพวัสดุและโครงสร้าง"
- การลด–เพิ่มคุณภาพวัสดุ
วัสดุตกแต่งและงานระบบ เช่น พื้น ผนัง ฝ้า สี สุขภัณฑ์ และระบบไฟฟ้า เป็นส่วนที่สามารถมีการปรับลดหรือเพิ่มสเปคได้ค่อนข้างยืดหยุ่น โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อควบคุมงบประมาณ หรือเพื่อเพิ่มคุณภาพของงานก่อสร้างในด้านภาพลักษณ์และการใช้งาน
- กรณีที่พบบ่อย
- การ “ลด” คุณภาพหรือเปลี่ยนเป็นวัสดุที่ราคาถูกลง
- เพื่อ ประหยัดงบประมาณ หรือกรณีที่งบไม่พอ
- กรณี วัสดุเดิมไม่มีของ หรือหาไม่ได้ตามแบบ
- หรือมีวัสดุทดแทนที่ใช้งานได้ใกล้เคียง แต่ถูกกว่า
- ตัวอย่าง:
- เปลี่ยนพื้นไม้จริงเป็นลามิเนต
- ใช้สีทาภายในเกรดกลางแทนเกรดพรีเมียม
- กระบวนการลด-เพิ่มวัสดุที่ถูกต้อง
- เปรียบเทียบคุณสมบัติและราคา
- เสนอขออนุมัติกับผู้ออกแบบหรือเจ้าของงาน
- บันทึกการเปลี่ยนแปลงในเอกสาร Shop Drawing, RFI หรือรายการวัสดุ (Material Submission)
- กรณีเป็นงานราชการต้องมีเอกสารเปรียบเทียบและขออนุมัติเป็นทางการ (เช่น เอกสารเปลี่ยนแปลงรายการงานหรือ BOQ)
- กรณีที่พบบ่อย
- การลด–เพิ่มคุณภาพหรือขนาดของโครงสร้าง
ต่างจากวัสดุตกแต่ง โครงสร้างของอาคาร เช่น เสา คาน พื้น ฐานราก และเหล็กเสริม เป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญต่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของอาคาร การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในส่วนนี้ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของวิศวกรโครงสร้างอย่างเคร่งครัด
ข้อควรระวัง- การ "ลด" ขนาดหรือคุณภาพวัสดุโครงสร้าง เช่น ใช้คอนกรีตกำลังอัดต่ำลง หรือใช้เหล็กเส้นที่เล็กลง ต้องผ่านการคำนวณใหม่และได้รับการรับรองจากวิศวกรที่มีใบอนุญาต
- การ "เพิ่ม" ขนาดหรือใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น แม้จะดูเป็นการปรับปรุง แต่ก็อาจส่งผลต่อจุดอื่นของโครงสร้าง (เช่น น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น)
ตัวอย่าง:
ตัวอย่างการ "ลด" สเปคโครงสร้าง (มักจะห้ามทำถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน)
รายการ |
ตัวอย่าง |
หมายเหตุ |
---|---|---|
เหล็กเสริม |
ลดจาก DB25 เป็น DB20 |
ต้องคำนวณรับแรงใหม่ |
คอนกรีต |
ใช้กำลังอัดต่ำลง (จาก 280 → 240 ksc) |
ส่งผลต่อความแข็งแรง |
ขนาดคาน/เสา |
ลดหน้าตัดเล็กลง |
กระทบทั้งโครงสร้าง |
ถ้าไม่มีการคำนวณและอนุมัติจากวิศวกร → ถือว่าผิดกฎหมาย (พรบ.ควบคุมอาคาร)
ตัวอย่างการ "เพิ่ม" สเปคโครงสร้าง
รายการ |
ตัวอย่าง |
ข้อดี |
---|---|---|
คอนกรีต |
ใช้คอนกรีตกำลังอัดสูงขึ้น |
แข็งแรงขึ้น ทนทานขึ้น |
เหล็ก |
เปลี่ยนเป็นเหล็กคุณภาพสูง (เช่น SD40 แทน SD30) |
รับแรงดึงได้มากขึ้น |
คาน-เสา |
เพิ่มขนาด |
เผื่อโหลดเผื่องานต่อเติมในอนาคต |
กรณีแบบนี้มักไม่มีปัญหา แต่ต้องมีบันทึกไว้ใน Shop Drawing / As-built Drawing
กระบวนการลด–เพิ่มคุณภาพหรือขนาดของโครงสร้างที่ถูกต้อง
- แจ้งวิศวกรโครงสร้างเพื่อตรวจสอบและคำนวณใหม่ (หากจำเป็น)
- จัดทำแบบแก้ไขหรือ Shop Drawing
- ขออนุมัติจากผู้ควบคุมงานและเจ้าของโครงการ
- ทำบันทึกไว้ใน As-built Drawing และเอกสารรายงานหน้างาน
การลด–เพิ่มคุณภาพของวัสดุและโครงสร้างในงานก่อสร้างเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ แต่ควรดำเนินการอย่างรอบคอบ มีการวิเคราะห์ผลกระทบ และมีการอนุมัติจากผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในส่วนของโครงสร้าง ซึ่งหากเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีการคำนวณและตรวจสอบจากวิศวกร อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยและผิดกฎหมายควบคุมอาคารได้ ดังนั้น การสื่อสาร การวางแผน และการบันทึกข้อมูลที่ชัดเจน จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการจัดการงานก่อสร้างอย่างมืออาชีพ
เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยและความแข็งแรงของอาคาร ควรตรวจโครงสร้างอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญ ติดต่อ N.S.PLUS ENGINEERING ผู้นำด้านการตรวจโครงสร้างอาคารโดยเฉพาะ
เราให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสูง ด้วยทีมวิศวกรผู้มีความรู้ ความชำนาญในสาขาวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม พร้อมด้วยอุปกรณ์ตรวจสอบที่ทันสมัย เพื่อความแม่นยำสูงสุดและประสิทธิภาพในการวิเคราะห์โครงสร้างอย่างรอบด้าน
Website : https://www.nsplusengineering.com
โทร : 086-307-5103, 085-114-3733
Facebook : nsplusengineering
Line : @nsplus
Email : infos.nsplus@gmail.com