การลด–เพิ่มคุณภาพวัสดุและโครงสร้างในงานก่อสร้าง

ลด–เพิ่มสเปค? เช็กให้ชัวร์ ตรวจโครงสร้างโดยวิศวกรเฉพาะทาง

การลดหรือเพิ่มคุณภาพวัสดุและโครงสร้าง

ในกระบวนการก่อสร้างอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ หรือโครงการขนาดใหญ่ มักมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุหรือรายละเอียดทางวิศวกรรมระหว่างดำเนินงานจริง ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น งบประมาณที่จำกัด ความพร้อมของวัสดุในท้องตลาด ความเหมาะสมของหน้างาน หรือความต้องการของเจ้าของโครงการเอง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เรียกกันโดยทั่วไปว่า "การลดหรือเพิ่มคุณภาพวัสดุและโครงสร้าง"

  1. การลด–เพิ่มคุณภาพวัสดุ
    วัสดุตกแต่งและงานระบบ เช่น พื้น ผนัง ฝ้า สี สุขภัณฑ์ และระบบไฟฟ้า เป็นส่วนที่สามารถมีการปรับลดหรือเพิ่มสเปคได้ค่อนข้างยืดหยุ่น โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อควบคุมงบประมาณ หรือเพื่อเพิ่มคุณภาพของงานก่อสร้างในด้านภาพลักษณ์และการใช้งาน

    • กรณีที่พบบ่อย
      • การ “ลด” คุณภาพหรือเปลี่ยนเป็นวัสดุที่ราคาถูกลง
      • เพื่อ ประหยัดงบประมาณ หรือกรณีที่งบไม่พอ
      • กรณี วัสดุเดิมไม่มีของ หรือหาไม่ได้ตามแบบ
      • หรือมีวัสดุทดแทนที่ใช้งานได้ใกล้เคียง แต่ถูกกว่า

    • ตัวอย่าง:
      • เปลี่ยนพื้นไม้จริงเป็นลามิเนต
      • ใช้สีทาภายในเกรดกลางแทนเกรดพรีเมียม

    • กระบวนการลด-เพิ่มวัสดุที่ถูกต้อง
      • เปรียบเทียบคุณสมบัติและราคา
      • เสนอขออนุมัติกับผู้ออกแบบหรือเจ้าของงาน
      • บันทึกการเปลี่ยนแปลงในเอกสาร Shop Drawing, RFI หรือรายการวัสดุ (Material Submission)
      • กรณีเป็นงานราชการต้องมีเอกสารเปรียบเทียบและขออนุมัติเป็นทางการ (เช่น เอกสารเปลี่ยนแปลงรายการงานหรือ BOQ)

  2. การลด–เพิ่มคุณภาพหรือขนาดของโครงสร้าง
    ต่างจากวัสดุตกแต่ง โครงสร้างของอาคาร เช่น เสา คาน พื้น ฐานราก และเหล็กเสริม เป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญต่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของอาคาร การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในส่วนนี้ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของวิศวกรโครงสร้างอย่างเคร่งครัด

    ข้อควรระวัง
    • การ "ลด" ขนาดหรือคุณภาพวัสดุโครงสร้าง เช่น ใช้คอนกรีตกำลังอัดต่ำลง หรือใช้เหล็กเส้นที่เล็กลง ต้องผ่านการคำนวณใหม่และได้รับการรับรองจากวิศวกรที่มีใบอนุญาต
    • การ "เพิ่ม" ขนาดหรือใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น แม้จะดูเป็นการปรับปรุง แต่ก็อาจส่งผลต่อจุดอื่นของโครงสร้าง (เช่น น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น)


ตัวอย่าง:

ตัวอย่างการ "ลด" สเปคโครงสร้าง (มักจะห้ามทำถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน)

รายการ

ตัวอย่าง

หมายเหตุ

เหล็กเสริม

ลดจาก DB25 เป็น DB20

ต้องคำนวณรับแรงใหม่

คอนกรีต

ใช้กำลังอัดต่ำลง (จาก 280 → 240 ksc)

ส่งผลต่อความแข็งแรง

ขนาดคาน/เสา

ลดหน้าตัดเล็กลง

กระทบทั้งโครงสร้าง

 
ถ้าไม่มีการคำนวณและอนุมัติจากวิศวกร → ถือว่าผิดกฎหมาย (พรบ.ควบคุมอาคาร)


ตัวอย่างการ "เพิ่ม" สเปคโครงสร้าง

รายการ

ตัวอย่าง

ข้อดี

คอนกรีต

ใช้คอนกรีตกำลังอัดสูงขึ้น

แข็งแรงขึ้น ทนทานขึ้น

เหล็ก

เปลี่ยนเป็นเหล็กคุณภาพสูง (เช่น SD40 แทน SD30)

รับแรงดึงได้มากขึ้น

คาน-เสา

เพิ่มขนาด

เผื่อโหลดเผื่องานต่อเติมในอนาคต


กรณีแบบนี้มักไม่มีปัญหา แต่ต้องมีบันทึกไว้ใน Shop Drawing / As-built Drawing


กระบวนการลด–เพิ่มคุณภาพหรือขนาดของโครงสร้างที่ถูกต้อง

  • แจ้งวิศวกรโครงสร้างเพื่อตรวจสอบและคำนวณใหม่ (หากจำเป็น)
  • จัดทำแบบแก้ไขหรือ Shop Drawing
  • ขออนุมัติจากผู้ควบคุมงานและเจ้าของโครงการ
  • ทำบันทึกไว้ใน As-built Drawing และเอกสารรายงานหน้างาน

การลด–เพิ่มคุณภาพของวัสดุและโครงสร้างในงานก่อสร้างเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ แต่ควรดำเนินการอย่างรอบคอบ มีการวิเคราะห์ผลกระทบ และมีการอนุมัติจากผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในส่วนของโครงสร้าง ซึ่งหากเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีการคำนวณและตรวจสอบจากวิศวกร อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยและผิดกฎหมายควบคุมอาคารได้ ดังนั้น การสื่อสาร การวางแผน และการบันทึกข้อมูลที่ชัดเจน จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการจัดการงานก่อสร้างอย่างมืออาชีพ

เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยและความแข็งแรงของอาคาร ควรตรวจโครงสร้างอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญ ติดต่อ N.S.PLUS ENGINEERING ผู้นำด้านการตรวจโครงสร้างอาคารโดยเฉพาะ

เราให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสูง ด้วยทีมวิศวกรผู้มีความรู้ ความชำนาญในสาขาวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม พร้อมด้วยอุปกรณ์ตรวจสอบที่ทันสมัย เพื่อความแม่นยำสูงสุดและประสิทธิภาพในการวิเคราะห์โครงสร้างอย่างรอบด้าน

Visitors: 314,976