ไฟไหม้อาคาร ต้องซ่อมโครงสร้างหรือรื้อใหม่? เจาะลึกการตรวจสอบอาคารหลังเหตุเพลิงไหม้
ไฟไหม้อาคาร โครงสร้างยังเหมือนเดิมหรือไม่? ตรวจโครงสร้างอย่างไรหลังเกิดเหตุ
เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคาร คำถามสำคัญที่ตามมาคือ “โครงสร้างของอาคารยังสามารถใช้งานต่อได้หรือไม่?” คำตอบสำหรับคำถามนี้ไม่ง่ายนัก เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งชนิดของวัสดุโครงสร้าง ความรุนแรงของเพลิงไหม้ ระยะเวลาที่โครงสร้างสัมผัสกับไฟ และวิธีการประเมินความเสียหายหลังเหตุการณ์
บทความนี้จะพามาเจาะลึกการตรวจสอบอาคารหลังเหตุเพลิงไหม้ โดยทีมวิศวกร ผู้ตรวจสอบอาคารมากประสบการณ์
ผลกระทบหลังเกิดเหตุไฟไหม้ต่อวัสดุโครงสร้างอาคาร
อาคารโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก
- คอนกรีต จะเริ่มสูญเสียความแข็งแรงที่อุณหภูมิประมาณ 300°C และลดลงอย่างมากเมื่อเกิน 500°C อีกทั้งผิวคอนกรีตอาจเกิดการหลุดร่อน (spalling) ซึ่งทำให้เหล็กเสริมสัมผัสกับความร้อนโดยตรง โดยสามารถสังเกตได้จากสีของคอนกรีตที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสีจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร
ตารางแสดงสีคอนของกรีตที่เปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ
อุณหภูมิ (°C)
สีของคอนกรีต
300-600
ชมพูหรือแดง
600-900
เทา
900-1,000
เหลืองอ่อน
>1,200
เหลือง
- เหล็กเสริม (Rebar) เริ่มสูญเสียกำลังรับแรงที่อุณหภูมิประมาณ 400–600°C
อาคารโครงสร้างเหล็ก
โครงสร้างเหล็กมีจุดอ่อนหลักคือสูญเสียความสามารถในการรับน้ำหนักอย่างรวดเร็วเมื่อเจอความร้อน อุณหภูมิประมาณ 600°C สามารถลดความสามารถในการรับน้ำหนักของเหล็กลงได้ถึง 50% และหากไม่มีการห่อหุ้มกันไฟ โครงสร้างเหล็กอาจเสียรูปทรงหรือพังถล่มได้
แนวทางการตรวจโครงสร้างหลังเหตุเพลิงไหม้
- ตรวจโครงสร้างด้วยวิธีพินิจ (Visual Inspection) (มยผ. 1501-51)
หมายถึง การตรวจสอบด้วยตาเปล่า ประกอบกับอุปกรณ์การตรวจสอบพื้นฐาน เช่น ไม้บรรทัด มาตรวัดความกว้างของรอยร้าว โดยไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ตารางจำแนกประเภทความเสียหาย (Damage Classification)
ระดับความเสียหาย ลักษณะความเสียหาย
A
ไม่เสียหาย
ไม่พบร่องรอยความเสียหาย หรือมีลักษณะเหมือนอยู่นอกพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้
B
เล็กน้อย
ไม่พบการกะเทาะตัวของคอนกรีต/อาจมีการหลุดร่อนออกของปูนฉาบได้เป็นจุดๆ
ไม่พบรอยร้าวที่ผิวคอนกรีต ไม่พบการแอ่นตัว/โก่งตัวของโครงสร้างC ปานกลาง คอนกรีตกะเทาะตัวหลุดร่อนแต่ไม่ถึงแนวเหล็กเสริม ปูนฉาบหลุดร่อนออกและพบผิวคอนกรีตเป็นสีชมพู พบรอยร้าวที่ผิวคอนกรีต ความกว้างน้อยกว่า 0.5 มม. ไม่พบการแอ่นตัว/โก่งตัวอย่างเห็นได้ชัดของโครงสร้าง D รุนแรง คอนกรีตกะเทาะตัวหลุดร่อนออกจนเห็นแนวเหล็กเสริม เหล็กเสริมต้องยึดติดกับคอนกรีต
และไม่พบการแยกตัว ไม่พบการแอ่นตัว/โก่งตัวอย่างเห็นได้ชัดของโครงสร้าง
พบรอยร้าวความกว้างเกินกว่า 0.5 มม.E รุนแรงมาก คอนกรีตกะเทาะตัวหลุดร่อนออกจนเห็นเหล็กเสริมเป็นบริเวณกว้าง
เหล็กเสริมมีการบิดตัว/โก่งตัวผิดรูป และหลุดออกจากตำแหน่ง
คานพื้นแอ่นตัวอย่างเห็นได้ชัด เสามีการโก่งตัว/บิดตัวผิดรูป - ทดสอบกำลังคอนกรีต (Concrete Strength) เป็นการทดสอบกำลังว่าคอนกรีตยังมีสภาพแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้หรือไม่ โดยสามารถทดสอบได้ทั้งแบบทำลาย (Destructive Test) และไม่ทำลาย (Non-Destructive Test)
- ทดสอบกำลังรับแรงดึงเหล็กเสริม (Tensile Strength) เป็นการประเมินกำลังรับแรงดึงเหล็กเสริมในโครงสร้างคอนกรีต หรือโครงสร้างเหล็ก มีทั้งแบบทำลาย (Destructive Test) และไม่ทำลาย (Non-Destructive Test)
- ตรวจสอบคุณภาพคอนกรีต (Ultrasonic Pulse Velocity) เป็นการตรวจสอบคุณภาพ ความสมบูรณ์ของคอนกรีต ว่าสภาพคอนกรีตภายในยังมีความสมบูรณ์หรือไม่
- วัดการแอ่นตัวของโครงสร้าง (Deflection Measurement) เป็นการวัดการแอ่นตัว หรือเสียรูปของโครงสร้าง เช่น พื้น คาน และเสา
- ตรวจสอบปฏิกิริยาคาร์บอเนชั่น (Carbonation Depth Test) เป็นการตรวจสอบการแทรกซึมของคาร์บอนไดออกไซด์ในคอนกรีต เนื่องจากทำให้คอนกรีตเป็นกรด และส่งผลให้เกิดการเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว
- ทดสอบน้ำหนักบรรทุกจริง (Load Test) เป็นการทดสอบโดยนำน้ำหนักบรรทุกจริง มาวางบนโครงสร้าง และประเมินสภาพโครงสร้าง การแอ่นตัว ตามมาตรฐานว่าโครงสร้างเดิม สามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้หรือไม่

สรุป!!! อาคารของเราต้องซ่อมโครงสร้างหรือรื้อ???
- รื้อทิ้ง!!! สร้างใหม่!!! สำหรับกรณีโครงสร้างที่เสียหายหนักมาก!!! และไม่สามารถแก้ไขได้
- ซ่อมแซมแก้ไข กรณีโครงสร้างเสียหายบางส่วน และสามารถซ่อมแซมแก้ไขได้ เช่น คอนกรีตแตกกะเทาะหลุดร่อน ทำการสกัดโครงสร้างเดิมออก แล้วเทคอนกรีตใหม่
- เสริมกำลัง กรณีที่กำลังวัสดุลดลง แต่ยังสามารถใช้งานได้ เช่น กำลังคอนกรีตลดลง หรือมีการแอ่นตัวของโครงสร้าง โดยการเสิรมกำลังด้วยเหล็กรูปพรรณ หรือคาร์บอนไฟเบอร์ เป็นต้น
***ในกรณีที่มีการซ่อมแซมในปริมาณมาก ควรเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการซ่อมทั้งหมดและค่าใช้จ่ายในการรื้อสร้างใหม่ หากค่าใช้จ่ายในการซ่อมใกล้เคียงหรือมากกว่า ควรรื้อสร้างใหม่***
ให้ NS Plus Engineering ช่วยตรวจโครงสร้างหลังเหตุไฟไหม้

NS Plus Engineering คือผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจโครงสร้าง และตรวจสอบอาคาร หลังเหตุเพลิงไหม้ โดยทีมวิศวกรมากประสบการณ์ ให้บริการทั้งการประเมินความเสียหายทดสอบวัสดุ และวางแผนซ่อมโครงสร้างหรือเสริมกำลังอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน
ไม่ว่าจะเป็นอาคารพาณิชย์ โรงงาน หรือการตรวจบ้านที่ได้รับผลกระทบ เราพร้อมให้คำปรึกษาและวางแนวทางแก้ไขอย่างมืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารของคุณปลอดภัยและใช้งานได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
Website : https://www.nsplusengineering.com
โทร : 086-307-5103, 085-114-3733
Facebook : nsplusengineering
Line : @nsplus
Email : infos.nsplus@gmail.com