วัสดุ GFRP คืออะไร? รู้จักกับ “เหล็กเส้นไฟเบอร์กลาส” ทางเลือกใหม่ในงานก่อสร้าง
เบาแต่แข็งแรง GFRP เหล็กเส้นไฟเบอร์กลาส ตัวช่วยซ่อมอาคาร ซ่อมเสา ซ่อมโครงสร้าง
ในโลกยุคใหม่ที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว วัสดุที่เราใช้ในชีวิตประจำวันก็เปลี่ยนแปลงไปมากเช่นกัน คุณอาจเคยเห็นสะพานคนเดินที่ไม่มีโครงเหล็กหนัก ๆ หรือชิ้นส่วนรถยนต์ที่เบาแต่มือจับแล้วรู้สึกแน่นหนา วัสดุที่อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมเหล่านี้อาจเป็น GFRP หรือ เหล็กเส้นไฟเบอร์กลาส วัสดุแห่งอนาคตที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในวงการวิศวกรรม
GFRP คืออะไร?
GFRP ย่อมาจาก Glass Fiber Reinforced Polymer หรือภาษาไทยคือ โพลิเมอร์เสริมแรงด้วยใยแก้ว เป็นวัสดุเชิงประกอบ (composite material) ที่เกิดจากการนำเส้นใยแก้ว (glass fiber) มาผสมกับพลาสติกประเภทโพลิเมอร์ เช่น โพลีเอสเตอร์ หรืออีพอกซีเรซิน
เส้นใยแก้วให้ความแข็งแรงทางกล (mechanical strength) ส่วนพลาสติกให้ความยืดหยุ่นและความสามารถในการขึ้นรูป ทำให้ GFRP มีคุณสมบัติที่โดดเด่นและใช้งานได้หลากหลาย
หนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากคือ เหล็กเส้นไฟเบอร์กลาสซึ่งก็คือเหล็กเส้นที่ผลิตจากวัสดุ GFRP แทนการใช้เหล็กกล้า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อน เช่น งานซ่อมอาคาร ซ่อมเสา และซ่อมโครงสร้าง
ลองจินตนาการถึงพลาสติกที่ถูกเสริมด้วยเส้นใยแก้วละเอียด จนกลายเป็นวัสดุที่ทั้งเบาและแข็งแรงพอจะใช้สร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ได้อย่างมั่นใจ
คุณสมบัติเด่นของ GFRP
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
น้ำหนักเบา | ช่วยลดน้ำหนักของโครงสร้างและลดภาระในการขนส่ง |
ไม่เป็นสนิม | ทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น เอื้อต่อการเกิดสนิม หรือสารเคมี เช่น ริมทะเลหรือโรงงานอุตสาหกรรม |
แข็งแรงทนแรงดึง | เส้นใยแก้วช่วยให้ GFRP ทนต่อแรงดึงได้สูง แม้นจะยืดหยุ่นก็ตาม |
ยืดหยุ่นในการออกแบบ | สามารถขึ้นรูปเป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้ง่าย |
ทนต่อการกัดกร่อน | ใช้งานได้ดีในพื้นที่ที่มีสารเคมีหรือความเป็นกรด-ด่างสูง |
GFRP ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
เนื่องจาก GFRP มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าวัสดุหลายชนิดในบางด้าน จึงถูกนำไปใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น งานก่อสร้าง ยานยนต์ พลังงาน การเดินเรือ และระบบท่อส่งน้ำ/ของเหลว โดยเฉพาะในงาน ซ่อมอาคาร ซ่อมเสา และซ่อมโครงสร้าง ที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา
- การใช้ GFRP ในงานถนน และงานก่อสร้างสะพาน : มักใช้ GFRP ในรูปแบบของเหล็กเสริม (rebar) ที่ฝังในแผ่นพื้นคอนกรีต ข้อดี คือ ไม่เป็นสนิมจากการสัมผัสน้ำหรือเกลือ น้ำหนักเบา ลดภาระงานในการขนย้าย และอายุการใช้งานยาวนาน ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
กรณีศึกษา: ในแคนาดาและญี่ปุ่นมีการใช้ GFRP เป็นเหล็กเสริมในถนนคอนกรีตที่สัมผัสกับเกลือละลายน้ำแข็ง
และพบว่าอายุการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 30% เทียบกับเหล็กเสริมธรรมดา
ที่มา : https://www.google.com/maps/place/Nipigon+River+Bridge/@49.0197723,-88.2506672,3a,75y,90t - การใช้ GFRP เสริมกำลังโครงสร้างเก่า : อาคารสะพานหรือเสาเข็มที่เสื่อมสภาพ เป็นอีกหนึ่งการใช้งานหลักของ GFRP โดยมักใช้ในรูปแบบของ GFRP sheets หรือ wraps พันรอบโครงสร้างเดิม ข้อดี คือ เพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนักของโครงสร้างเก่าโดยไม่เพิ่มน้ำหนักมาก และสามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องหยุดใช้งานโครงสร้าง อาทิ
- การติดตั้งระบบ GFRP แบบขึ้นรูปเปียก (Wet Lay-Up System) : ใช้ในการพันเส้นใย GFRP รอบเสา หรือคาน (มยผ.1508-51)
- การติดตั้งระบบ GFRP แบบฝังใกล้ผิว (Near-Surface Mounted ; NSM): ฝัง GFRP bars ลงในรอยเจาะของคอนกรีต/ ชิ้นส่วนโครงสร้างที่อยู่ติดกัน (มยผ.1508-51)
เสริมกำลังโครงสร้างเสาตอม่อ ที่มา: NSPLUS Engineering
- การใช้ GFRP ในแนวกั้นคลื่นทะเล (Sea Wall / Coastal Barrier) : แนวกั้นคลื่นและโครงสร้างทางชายฝั่งเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการกัดกร่อนสูงจากน้ำเค็ม และการเกิดสนิมซึ่งเป็นจุดเด่นของ GFRP เนื่องจากสามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมเหล่านี้ได้ดี
กรณีศึกษา: ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา มีการใช้ GFRP เสริมในโครงสร้างกันคลื่น โดยลดการซ่อมแซมจากสนิมได้กว่า 50% ภายใน 10 ปี
GFRP กับเหล็ก: ต่างกันอย่างไร?

แม้ว่าเหล็กจะเป็นวัสดุมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้าง แต่ GFRP ก็เริ่มเข้ามาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในหลายกรณี โดยเฉพาะเมื่อความเบาและความทนทานต่อการกัดกร่อนเป็นเรื่องสำคัญ
ข้อเปรียบเทียบ | GFRP | เหล็ก |
---|---|---|
น้ำหนัก | เบากว่ามาก (ความหนาแน่น 1.25-2.10 g/cm³) |
หนักกว่า (ความหนาแน่น 7.65 g/cm³) |
ความทนต่อสนิม | ไม่เป็นสนิม | เป็นสนิมได้ง่าย |
ความสามารถในการนำไฟฟ้า/การเหนี่ยวนำ | ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทนไฟและความร้อนได้ดีกว่า |
เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทนไฟและความร้อนได้ต่ำกว่า |
ความแข็งแรง | มีความแข็งแรง และสามารถรับแรงดึง (Tensile Stress) ได้ดี | มีความแข็งแรง แต่รับแรงยึดเหนี่ยว (Bonding Stress) ได้ต่ำ |
อายุการใช้งาน | อายุงานในสภาพแวดล้อมรุนแรงสูง | อายุสั้น หากมีการกัดกร่อน ความชื้น หรือสารเคมี |
ความปลอดภัยในการใช้งาน | ผู้ผลิตผลิตได้ง่ายตามสภาพที่ต้องการ ไม่มีเศษแหลมคมเมื่อตัดหรือแตกหัก ระยะหดตัวต่ำ |
มีโอกาสเกิดเศษแหลมคม และบาดเจ็บได้ง่าย ระยะหดตัวสูง |
การนำไฟฟ้าและความร้อน | ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและความร้อน | เป็นสื่อนำไฟฟ้าและความร้อน |
คุณสมบัติทางแม่เหล็กไฟฟ้า | ไม่มีคุณสมบัติแม่เหล็กไฟฟ้า ไม่รบกวนระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สนามบิน โรงพยาบาล และสถานีฐานโทรศัพท์ | มีคุณสมบัติแม่เหล็กไฟฟ้า (ferromagnetic) รบกวนระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ |
ค่าความเป็นฉนวน | GFRP เป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดี | ต้องมีการเคลือบเพื่อเป็นฉนวน |
คาร์บอนฟุตพรินต์ | ใช้พลังงานการผลิตน้อยลงและลดการปลดปล่อยคาร์บอน | มีอุตสาหกรรมการถลุงเหล็กและปล่อยคาร์บอนสูง |
การรีไซเคิล | ยาก | ง่าย |
**คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) คือ เครื่องมือทางเศรษฐกิจ ที่ช่วยในการจัดการและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG: Greenhouse Gases) โดยให้ “มูลค่า” กับการลดหรือดูดซับคาร์บอน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ โดยวัสดุ GFRP เป็นวัสดุที่ปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิตน้อย และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน หากมีการประเมินผลกระทบตลอดวงจรชีวิต (Life Cycle Assessment)
การเสื่อมสภาพของ GFRP
- รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ทำให้เรซิ่นของพอลิเมอร์และเส้นใยเสียหายได้ง่ายหากสัมผัสเป็นเวลานาน
- ความชื้น ส่งผลให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของ GFRP ลดลง ทำให้ความทนทานลดลงไปด้วย
- อุณหภูมิ ที่สูงเกินกว่าจุดเปลี่ยนสถานะเป็นแก้ว (glass transition temperature, Tg) ของพอลิเมอร์จะทำให้วัสดุสูญเสียความแข็งแรง
- สภาพแวดล้อมเป็นด่าง ทำให้เส้นใยแก้วบางชนิดถูกกัดกร่อนได้ ส่งผลให้ความทนทานลดลง
GFRP ทางเลือกใหม่ของการซ่อมโครงสร้างยุคใหม่
GFRP หรือ เหล็กเส้นไฟเบอร์กลาส เป็นนวัตกรรมวัสดุที่รวมเอาข้อดีของใยแก้วและพลาสติก เข้าไว้ด้วยกัน จนกลายเป็นวัสดุที่ทั้งเบา แข็งแรง และทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้อย่างยอดเยี่ยมเหมาะกับทั้งงานก่อสร้างใหม่และการซ่อมแซมโครงสร้างอาคารที่ใช้งานมาอย่างยาวนาน
แม้ GFRP จะยังไม่สามารถแทนที่วัสดุแบบเดิมอย่างเหล็กหรือปูนซีเมนต์ได้ทั้งหมด แต่ก็เข้ามา เติมเต็มในจุดที่วัสดุทั่วไปมีข้อจำกัด โดยเฉพาะในงาน ซ่อมโครงสร้าง, ซ่อมอาคาร, และ ซ่อมเสา ที่ต้องการความแข็งแรง ทนต่อสนิม ติดตั้งง่าย และน้ำหนักเบา
NS Plus Engineering คือผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจโครงสร้างและตรวจสอบอาคาร ด้วยทีมวิศวกรผู้มากประสบการณ์ พร้อมให้บริการทั้งการประเมินความเสียหาย ทดสอบวัสดุ และวางแผนซ่อมโครงสร้างหรือเสริมกำลัง ด้วยวัสดุอย่าง GFRP ที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน เราพร้อมให้คำปรึกษาและแนวทางแก้ไขอย่างมืออาชีพ เพื่อให้อาคารของคุณกลับมา แข็งแรง ปลอดภัย และใช้งานได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
Website : https://www.nsplusengineering.com
โทร : 086-307-5103, 085-114-3733
Facebook : nsplusengineering
Line : @nsplus
Email : infos.nsplus@gmail.com